ฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปกคลุมหนาแน่นนับเป็นมลพิษทางอากาศ สาเหตุของการเกิดฝุ่นละอองมีหลายปัจจัย เช่น โรงผลิตไฟฟ้า ควันท่อไอเสียจากรถยนต์ การเผาไม้ทำลายป่า เผาขยะ รวมถึงการก่อสร้างหลายพื้นที่ ฝุ่นเหล่านี้จะลอยขึ้นไปในอากาศ ถูกลมพัดฟุ้งกระจายไป แต่ถ้าวันไหนที่อากาศนิ่ง ไม่ค่อยมีลมพัด ฝุ่นละอองจะไม่ฟุ้งกระจาย ส่งผลให้ระดับความเข้มของฝุ่นในพื้นที่นั้นๆ สูงมากขึ้นจนกลายเป็นระดับที่อันตรายต่อสุขภาพ เราจึงควรรู้วิธีในการ รับมือ กับ ฝุ่นที่เกิดขึ้นทั้ง บนท้องถนน และรอบตัวเรา รวมทั้งการป้องกันเมื่อจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก และอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น
ระมัดระวังการขับขี่
– เปิดไฟหน้ารถ
– ลดความเร็วในการขับรถลง
– เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ
– ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางในระยะกระชั้นชิด
– ชะลอรถและระวังเป็นพิเศษ เมื่อต้องขับรถผ่านทางแยก
– ให้สัญญาณล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนเส้นทางหรือช่องทางการจราจร
ใส่อุปกรณ์ป้องกันฝุ่น
– สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ
– หากสวมหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ ควรใส่หน้ากากอนามัยแน่นหนาแบบป้องกันฝุ่นละอองหรือสวมใส่ผ้าคลุมศีรษะก่อนสวมหมวกกันน็อค
หรือหากเป็นหมวกกันน็อคแบบไม่มีกระจก ควรสวมแว่นตาที่เหมาะกับการขับขี่ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองกระทบตาโดยตรง
– สวมเสื้อคลุมแขนยาว กางเกงขายาว หรือใส่ปลอกแขนที่มิดชิดเพื่อป้องกันฝุ่นกระทบผิวหนัง ลำคอ
(ควรทำความสะอาดหลังใช้ให้บ่อยครั้ง เพราะสวมใส่ขณะขับขี่จะมีฝุ่นละอองเกาะจำนวนมาก)
อาการแพ้ฝุ่นที่มีผลกับผิวหนัง
รู้สึกคันตามร่างกาย เป็นตุ่ม ผื่นนูนแดง คล้ายผื่นเล็กๆกระจายทั่วบริเวณแก้ม ซอกคอ ข้อพับแขน ข้อเท้า ตรงบริเวณที่เหงื่อออกง่าย ผู้ที่แพ้รุนแรงมีอาการคันเป็นผื่นแดง บวมนูน ลามทั่วร่างกาย
อาการแพ้ฝุ่นที่กระทบทางเดินหายใจ
เบื้องต้นจะรู้สึกอักเสบ คัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกแบบใสๆหายใจลำบาก คล้ายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
อาการภูมิแพ้ที่มีผลกับดวงตา
อาการแพ้ฝุ่นที่เกิดกับดวงตาอันตรายมาก นัยน์ตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำ คันบริเวณรอบดวงตา จนถึงเยื่อบุนัยน์ตาอักเสบ
ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝุ่นหนาแน่น รวมทั้งการดูแลสุขภาพของผู้ขับขี่ เพราะถ้าหากเกิดอาการแพ้ฝุ่นหรือมลพิษขั้นรุนแรง เกิดอาการหน้ามืด อาเจียนขณะขับขี่ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ควรติดตามสภาพอากาศและการวางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสมปลอดภัย