ใบขับขี่ หรือที่เราหลายคนอาจจะเรียกว่า “ใบอนุญาตขับรถ” ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นเอกสารสำคัญจากทางราชการที่ออกให้ผู้ที่มีสิทธิที่จะขับรถจักรยานยนต์ในราชอาณาจักร ตามระเบียบทางกฎหมาย กล่าวให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องพกใบอนุญาตติดตัวไว้ตลอดเวลา และสามารถให้เจ้าพนักงานตรวจสอบได้ แต่หาก หมดอายุ หรือขาดอายุจะต้องเจอโทษปรับตามที่กฎหมายกำหนด
โดยกรณีการขาดต่ออายุใบขับขี่ ตามกฎหมายจะแบ่งเป็น 3 ช่วง
1.ใบขับขี่ขาดต่ออายุไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่หมดอายุ
ในกรณีนี้สามารถนำใบขับขี่ไปขอต่ออายุใหม่ได้ทันที ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน เพียงสละเวลาไปขอต่อใบอายุขับขี่เท่านั้น จากนั้นเสียค่าธรรมเนียมในการต่ออายุ อดใจรอสักครู่ ก็ได้ใบขับขี่มาแล้ว
2.ใบขับขี่หมดอายุ ไปแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี
กรณีที่ 2 นี้ ทางกรมการขนส่งทางบกระบุให้ผู้ขับขี่ต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่ โดยข้อสอบจะมีทั้งสิ้น 50 ข้อ ต้องถูกอย่างน้อยร้อยละ 90 หรือ 45 ข้อ จึงจะผ่านเกณฑ์ จากนั้นรอทำใบขับขี่ใหม่
3.ใบขับขี่ หมดอายุ เกิน 3 ปี
อาจจะน้อยคนที่ต้องผ่านในกรณีนี้ แต่กรณีขาดอายุเกิน 3 ปี ทางกรมการขนส่งทางบกให้ปฏิบัติเทียบเท่ากับการสอบใบขับขี่ใหม่ ผู้ขับขี่ต้องสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติใหม่ทั้งหมด จึงจะมีสิทธิได้รับการอนุญาตอีกครั้ง
**ใบขับขี่สามารถต่ออายุได้ทันที 90 วัน ก่อนหมดอายุ**
หลักฐานที่ต้องจัดเตรียมไปทำการต่ออายุ ใบขับขี่ ได้แก่
1.ใบขับขี่ ฉบับเดิมที่หมดอายุ
2.บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนาฯ
**ในกณีที่ต้องการต่อใบขับขี่ โดยต่อ 2 ปีเป็น 5 ปี ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ถ้าต่อ 5 ปี เป็น 5 ปี ไม่ต้องใช้
ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่
1. ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ จะต้องตรวจสอบเอกสารและออกคำขอที่กรมขนส่งทางบก
2. ผู้ขับขี่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ดังนี้
– ทดสอบการมองเห็นสี (สีแดง เขียว เหลือง)
– ทดสอบสายตาทางลึก
– ทดสอบสายตาทางกว้าง
– ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ในการใช้เบรกเท้า)
3. อบรม 1 ชั่วโมง
4. ชำระค่าธรรมเนียม / ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ / จ่ายใบขับขี่ (โดยค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 255 บาท)
ใบอนุญาตขับขี่ เป็นหลักฐานที่ควรพกติดตัวไว้เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์เป็นประจำ เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าคุณได้ผ่านการทดสอบจากกรมการขนส่งทางบก ในกรณีลืมใบขับขี่ หรือใบขับขี่สูญหาย แนะนำ ใบขับขี่ดิจิทัล DLT Smart Licence ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android สามารถใช้ได้เฉพาะบัตรที่มี QR Code เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ควรพกใบจริงติดตัวไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและไม่ต้องเสียเวลา
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : ridebuster.com และ tqm.co.th